เนเชอรัล ลัมเบอร์

วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2554

การรับรอง FSC คืออะไร


  • Forest management (FM) certification

กระบวนการ การให้การรับรอง FSC FM สร้างความมั่นใจว่า บุคคล/ชุมชน/องค์กรที่เป็นเจ้าของป่าไม้นั้น ๆ จะรับผิดชอบดูแลป่าไม้ในระยะยาวถึงแม้ว่าจะเป็นการขอโดยสมัครใจก็ตาม ขั้นตอนการตรวจประเมินจะเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบหน้างานโดยหน่วยงานอิสระ ผ่านการพิจรณาหลักฐานที่เชื่อถือได้เทียบกับข้อเกณฑ์การบริหารจัดการป่าไม้ที่ดีและหลักการของ FSC ที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ซึ่งกฏเกณฑ์บางเรื่องอาจยกเว้นหรือมีความแตกต่างไปตามลักษณะของป่าไม้และกิจกรรมของชุมชน สำหรับการขายวัตถุดิบจากป่าที่ผ่านการรับรองซึ่งแสดงโลโก้ไว้ที่วัตถุดิบผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบบริหารป่าไม้นั้น ๆ จะต้องได้รับการรับรอง FSC CoC z (Chain of Custoday) ด้วย ซึ่งการรับรองประเภทนี้ จะเป็นการประกันความมั่นใจว่า วัตถุดิบ/ผลิตภัณฑ์นี้ ได้มาจากป่าที่มีการบริหารจัดการที่ดี และเป้นจุดเริ่มของการส่งต่อคุณค่าความมั่นใจผ่านไปยังผ้อุปโภค/บริโภค ตลอดอายุของผลิตภัณฑ์



  • Chain of Custody (CoC) certification

CoC (ห่วงโซ่ของการเป็นเจ้าของ) เน้นการสอบกลับของผลิตภัณฑ์ในทุก ๆ ขั้นตอนของการแปรรูป ซึ่งต้องสามารถตามกลับไปสู่ป่าไม้ที่ผ่านการรับรองที่เป็นที่มาของวัตถุดิบในผลิตภัณฑ์นั้นได้ วิธีการนี้จะเป็นการผูกโยงความมุ่งมั่นรวมกัน ตั้งแต่ผู้ผลิตแปรรูปทุกขั้นตอน จนถึงผุ้อุปโภค/บริโภคขั้นสุดท้าย



ที่มา: BUREAU VERITAS

วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554

เรารักโลก โลกรักเรา

FSC ใช้กระบวนให้การรับรอง และการแสดงโลโก้ติดไว้ที่ผลิตภัณฑ์ เป็นเครื่องมือให้การสื่อสารทางการตลาดกับลูกค้า ชึ่งทำให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากไม่ที่มาจากป่าที่ผ่านการรับรองมากขึ้นส่งผลให้ป่าไม้จากแหล่งนั้นสามารถคงความยั่งยืนจากการบริหารจัดการที่ดีของชุมชนได้ต่อไป ที่มา: BUREAU VERITAS

วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2554

รวมภาพกีตาร์สวย ๆ














ภาพโดย oknation.net















ภาพโดย tarad.com
















ภาพโดย guitar-directory.com

















วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554

ความหนาของไม้

ความหนาของไม้ alder มีตั้งแต่ 5 นิ้ว - 12 นิ้ว ความยาว 8 นิ้ว






























รูปภาพ โดย talkbass.com

วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2554

วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2554

ALDER


ไม้แอลเดอร์ (Alder wood) ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Alnus glutinosa พบได้ทั่วไปตั้งแต่ทางตอนเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป รวมทั้งบางส่วนของทวีปเอเชียตะวันตก ลักษณะทั่วไป : เนื้อไม้มีสีน้ำตาลอมชมพูอ่อน ถึงเกือบขาวและมีลายเสี้ยนที่เห็นได้ชัด คุณสมบัติพิเศษ : ทนต่อความชื้น และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้ดี ความต้านทานต่อการแตกร้าวเมื่อตอกตะปูดีเยี่ยม การใช้งาน : เนื้อไม้แอลเดอร์ มีการหดและขยายตัวน้อยมากจึงไม่ปริแตกง่าย อีกทั้งเสี้ยนไม้ยังมีความละเอียดมาก เฟอร์นิเจอร์ไม้อัลเดอร์ที่ผ่านการขัดตกแต่งอย่างปราณีตแล้ว จะมีความเนียนสวยงาม น่าสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง

ขอบคุณรูปภาพจาก:Weyerhaeuser.com

AMERICAN ASH

อเมริกัน แอช (American ash) ชื่อสกุลคือ Fraxinus spp
ชื่ออื่น ๆ : Northern ash,Southern ash





บทความโดยสภาส่งออกไม้เนื้อแข็งอเมริกัน (NHLA)

วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2554

ตำหนิไม้

กฎเกณฑ์ของ NHLA ระบุว่าลักษณะดังต่อไปนี้ถือว่าเป็นตำหนิ จึงไม่อนุญาตให้มีในไม้ไม่มีตำหนิของชั้นคุณภาพต่างๆ ของ NHLA ได้


เปลือกฝังใน (Bark Pocket) เป็นการบิดเบือนในลายเสี้ยนไม้สืบเองจากเกิดเปลือกฝังในบางส่วนของแผ่นไม้


รอยนกจิก (Bird Pecks) จุดด่างเล็ก ๆ ในลายเสี้ยนเกิดขึ้นเพราะนกจิกในบางกรณีจะมีรอยเปลือกภายใน(ingrown bark)เกิดขึ้นด้วย แต่ถาพบรอยนกจิกในไม้ฮิคโครี่(Hickory)และเอล์ม (Elm)จะไม่ถือว่าเป็นตำหนิ


รอยปริ(Check)เป็นรอยปริขนาดเล็กในแนวนอนบนหน้าไม้กระดาน เป็นผลจากการทำไม้ให้แห้งไม่ถูกต้องตามกรรมวิธีหรือทำเร็วเกินไป


รอยผุ (Decay or Rot) เกิดขึ้นจากการทำลายเนื้อไม้โดยเชื้อรา ถ้าพบว่ามีการเปลี่ยนสีของไม้กระพี้นั่นป็นอาการแรกเริ่มของการผุ


ตาผุ (Unsound Knot) มีลักษณะเป็นรูปวงเดือนและมีใจไม้อยู่ตรงกลาง พบตรงเนื้อไม้ที่เคยเป็นฐานของกิ่งหรือกิ่งอ่อน(บางทีไม้ตรงนั้นจะขาดหายไป)


ตาแข็งตัน(Sound Knot) เป็นตาที่มีลักษณะตันพาดบนผิวหน้าไม้และไม่มีร่องรอยของการผุ


รอยแตก (Split)เป็นรอยแตกแยกของเนื้อไม้ในแนวยาวเกิดขึ้นในกระบวนการทำไม้ให้แห้ง นอกจากนี้ยังมัรอยร้าวเกิดจากการแยกตัวของไม้ที่อยู่ระหว่าวงปี (annual growth rings)


รอยด่างจากไม้คั่น (Sticker Stain) เป้นรอยด่าง ส่วนใหญ่สีเทา เกิดขึ้นจากไม้คั่นที่ใช้ในการทำไม้ให้แห้ง


บ่าหรือริมไม้ขาดหายไป( Wane) เนื้อไม้ตรงริมแผ่นไม้ขาดหายไปหรือมีเปลือกไม้ตรงริมแผ่น จึงเป็นตำหนิ เกิดขึ้นกับแผ่นไม้กระดานตัดมาจากส่วนของท่อนไม่ที่โค้งตามธรรมชาติ


รูหนอน (Worm Holes) รูในเนื้อไม้จากขนาด 1/16" ถึงมากกว่า 1/4"


ใจไม้ (Pith) ใจหรือแก่นไม้ลักษณะนุ่ม ๆ ที่อยู่ตรงกลางโครงสร้างของต้นไม้พอมาอยู่ในแผ่นกระดานไม้ถือว่าเป็นตำหนิ


รูเจาะ (Grub,Holes) รูมีขนาดใหญ่กว่า 1/4"


บทความจากสภาส่งออกไม้เนื้อแข็งอเมริกัน (HNAL)

วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2554

ไม้คุณภาพชั้นหนึ่ง (No.1C) และไม้คุณภาพชั้น 2 AC (No.2AC)

ไม้คุณภาพชั้นหนึ่ง (No.1C)
เป็นไม้ชั้นคุณภาพที่ในสหรัฐฯ เรียกกันว่า เกรดสำหรับทำตู้ เนื่องจากว่าสมารถนำมาดัดแปลงทำประตูตู้ในครัวขนาดมาตรฐานที่ใช้ทั่วไปในประเทศได้ง่าย ทั้งยังสามารถนำมาทำชิ้นส่วนของเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้กันทั่วไปได้ง่ายเช่นเดียวกัน ไม้คุณภาพชั้นหนึ่งคือไม้กระดานที่มีขนาดอย่างน้อยกว้าง 3” และยาว 4’ และจะต้องได้เนื้อไม้ไม่มีตำหนิอย่างน้อย 66 2/3% (8/12 x100) ถึง (แต่ไม่รวม) 83 1/3% ซึ่งตัวเลขหลังเป็นข้อกำหนดขั้นต่ำของไม้คุณภาพ FAS

นอกจากนี้ ไม้ที่ไร้ตำหนิจะต้องมีขนาดต่ำสุด 3” x 3’ หรือ 4” x 2’ (ดูในรูปข้างล่าง) ส่วนจำนวนแผ่นไม้ไร้ตำหนิที่อาจตัดได้จากไม้กระดานแผ่นหนึ่งจะขึ้นอยู่กับขนาดของไม้กระดาน

คุณสมบัติดังกล่าวต้องมีในทั้งสองข้องของไม้กระดานจึงจะผ่านมาตรฐานไม้คุณภาพชั้นหนึ่ง

หากด้านที่ดีกว่าของไม้กระดานมีลักษณะตรงตามข้อกำหนดของไม้เกรด FAS และอีกด้านหนึ่งไปตรงกับข้อกำหนดของไม้คุณภาพชั้นหนึ่ง (No.1C) ไม้กระดานนั้นอาจจัดให้อยู่ในเกรด F1F หรือ Selects ก็ได้



ไม้คุณภาพชั้น 2AC (No. 2 AC)
ไม้คุณภาพชั้น 2AC มักเรียกกันว่าไม้เกรดประหยัด เนื่องจากว่าราคาและเนื้อไม้จะเหมาะกับการผลิตชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์หลากหลายรูปแบบและเป็นไม้เกรดที่อุตสาหกรรมผลิตพื้นไม้เนื้อแข็ง (Hardwood flooring industry) ในสหรัฐอเมริกา ชอบใช้ ไม้ที่จัดอยู่ในเกรด 2AC มีข้อกำหนดคือ ไม้กระดานจะต้องมีขนาดความกว้างอย่างน้อย 3” และความยาวอย่างน้อย 4’ และต้องมีเนื้อไม้ไร้ตำหนิอย่างน้อย 50% (6/12 x 100) และไม่เกิน 66 2/3% ของแผ่น (แต่ไม่ถึง 66 2/3%) ซึ่งเป็นข้อกำหนดขั้นต่ำของไม้คุณภาพขั้นหนึ่ง ขนาดเล็กสุดของไม้ไร้ตำหนิในเกรดนี้ คือ กว้าง 3” ยาว 2’ จำนวนแผ่นไม้ไร้ตำหนิที่จะได้จากไม้กระดานแผ่นหนึ่งจะขึ้นอยู่กับขนาดของไม้กระดานถ้ากระดานด้านธรรมดามีเนื้อไม้ไร้ตำหนิตรงตามคุณสมบัติเกรด 2AC และอีกด้านที่ดีกว่ามีไม้ชั้นคุณภาพสูงกว่า ไม้แผ่นนั้นก็จัดให้อยู่ในเกรด 2 AC อยู่ดี



ถ้าด้านดีของแผ่นไม้มีคุณสมบัติเข้าข่ายชั้นมาตรฐาน FAS หรือไม้คุณภาพชั้นหนึ่ง แต่อีกด้านเป็นไม้ธรรมดาคุณภาพชั้น 2AC



อันที่จริง NHLA ได้จัดให้มีชั้นคุณภาพไม้เนื้อแข็งรองลงมาจาก ชั้น 2AC ไม้เกรดดังกล่าวมักจะถูกนำไปแปรรูปเป็นชิ้นส่วนย่อย ชิ้นส่วนทำพื้นเป็นไม้ใช้ในบ้านเรือนในประเทศสหรัฐฯ

ชั้นคุณภาพไม้ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นกรอบสำหรับใช้เป็นแนวทางการค้าไม้แปรรูปเนื้อแข็งอเมริกันต้องเรียนย้ำว่า กฎเกณฑ์เหล่านี้ไม่ตายตัว มีข้อยกเว้นได้ ขึ้นอยู่กับการเจรจาตกลงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายและเป็นสิ่งที่สมาคมฯ สนับสนุน (ให้มีการเจรจากัน) ถ้าผู้อ่านสนใจศึกษาชั้นคุณภาพทั้งหมดที่จัดทำโดย NHLA รวมทั้งการอธิบายอย่างละเอียด โปรดอ่านหนังสือคู่มือ “กฎเกณฑ์การวัดและตรวจสอบไม้เนื้อแข็งและไม้ไซเปรส” ของ NHLA

บทคาวมโดยสภาส่งออกไม้เนื้อแข็งอเมริกัน

วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2554

ไม้ชั้นคุณภาพสูงสุด คือ FAS และ FAS One Face และ Selects

ไม้ชั้นคุณภาพ FAS
ไม้เกรด FAS หมายถึงไม้แปรรูปที่ไม่มีตำหนิและเป็นชิ้นยาว พัฒนามาจากเกรดที่เดิมเรียกว่า "First and Seconds" เหมาะที่สุดสำหรับใช้ทำเฟอร์นิเจอร์คุณภาพสูง งานตัดต่อเป็นชิ้นส่วนต่างๆ ภายในอาคาร และการทำบัวขึ้นรูป ผู้ซื้อไม้ชั้นคุณภาพนี้จะได้รับแผ่นไม้กระดานแปรรูปขนาดกว้างอย่างน้อย 6" ยาวอย่างน้อย 8' และมีเนื้อไม้ไร้ตำหนิรวมแล้วเป็นสัดส่วนตั้งแต่ 8 1/3% (10/12 x 100) ถึง 100% ของแผ่น
ข้อกำหนดอีกอย่างคือส่วนของไม้ที่ไม่มีตำหนิ ต้องมีขนาด กว้าง 3” เป็นอย่างต่ำ ยาว 7’ เป็นอย่างต่ำ หรือกว่าง 4” เป็นอย่างต่ำ และยาว 5’ เป็นอย่างต่ำ
ส่วนจำนวนชิ้นไร้ตำหนิที่จะตัดได้จากไม้กระดานหนึ่ง ขึ้นอยู่กับขนาดของไม้กระดานแผ่นนั้น แต่ส่วนใหญ่ไม้กระดานแผ่นหนึ่งจะตัดไม้คุณภาพ FAS ได้หนึ่งหรือสองชิ้น ดังนั้น ขนาดของไม้ไร้ตำหนิจึงมีได้หลากหลายขึ้นอยู่กับพันธุ์ไม้และขึ้นอยู่กับว่าไม้กระดานนั้นถูกอบแห้งในเตาอบไม้ (kiln dried) มาก่อนหรือเปล่า อีกอย่างหนึ่งคือสำหรับเกรด FAS นี้ ทั้งสองข้างของไม้กระดานจะต้องผ่านข้อกำหนดต่างๆ ของ FAS ดังที่กล่าวข้างต้น



ข้อกำหนดหนึ่งของเกรด FAS คือ ด้านธรรมดา (poor face) หรือที่ตรงกันข้ามกับด้านดีที่สุด ของไม้กระดาน อย่างน้อย 83% จะต้องเป็นไม้ไร้ตำหนิ



ชั้นไม้คุณภาพ FAS หน้าเดียว (FAS One Face หรือ F1F)
ไม้แปรรูปชั้นคุณภาพนี้ส่วนใหญ่จะส่งให้ลูกค้าในกองหรือมัดเดียวกับไม้เกรด FAS ตามที่ตกลงกัน ข้อกำหนดของเกรด FAS หน้าเดียวหรือที่เรียกว่า F1F คือด้านที่ดีที่สุดของกระดานต้องมีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐาน FAS
แต่ด้านตรงกันข้ามอนุโลมให้มีคุณสมบัติตามเกรดไม้คุณภาพมาตรฐานเบอร์ 1 ได้ ( No.1 Common Grade) ซึ่งจะได้อธิบายถึงเกรดนี้ต่อไป ฉะนั้น ผู้ซื้อไม้คุณภาพ F1F จะได้ไม้ชั้น FAS อย่างน้อยหนึ่งหน้ากระดาน หลายครั้งที่กองไม้ส่งออกจะได้รับการจัดให้อยู่ในสัดส่วน 80-20 คือ 80% เป็นไม้ชั้นคุณภาพ FAS และอีก 20% เป็นไม้คุณภาพ FAS หน้าเดียว หรือแล้วแต่จะตกลงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย

ชั้นคุณภาพคัดเลือก ( Selects)

ไม้ชั้นคัดเลือกแทบจะไม่มีข้อแตกต่างกับชั้น FAS หน้าเดียว จะแตกต่างกันแค่ขนาดต่ำสุดของไม้กระดานซึ่งกฎระบุว่าต้องกว้างอย่างน้อย 4” และยาวอย่างน้อย 6’ ไม้เกรดนี้มักมาจากภาพเหนือของสหรัฐ และในการส่งมอบให้ลูกค้าอาจจะส่งรวมไปกับไม้เกรด FAS ตามที่จะตกลงกันระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย หลายครั้งจะพบว่าการส่งออกไม้ชั้นคุณภาพสูงสุดนั้น ผู้ขายจะเรียกรวมๆ กันว่า ไม้เกรด FAS และเป็นแนวปฏิบัติปกติทางธุรกิจที่ผู้ขายไม้เนื้อแข็งอเมริกันจะส่งไม้ทั้งสามชั้นคุณภาพในกองเดียวกันในสัดส่วนที่กำหนดไว้ผู้ซื้อจึง ควรตกลงกับผู้ขายในประเด็นนี้ล่วงหน้า เพื่อจะได้รับไม้ในคุณภาพที่ต้องการ แต่ในทุกกองไม้ชั้นคุณภาพ FAS F1F และ คัดเลือกที่จัดส่ง ผู้ซื้อจะต้องได้รับไม้ระดับคุณภาพ FAS อย่างน้อยในหนึ่งด้านของกระดาน

ยังมีชั้นคุณภาพอื่นอีกที่พัฒนามาจากเกรดข้างต้น คือ

เกรดไพร์ม (Prime) เกรดนี้พัฒนามาจาก เกรด FAS ของ NHLA เพื่อใช้กับตลาดไม้ส่งออกไม้ในเกรดนี้แทบจะไม่มีส่วนโค้งที่ของแผ่นไม้ (Wane) ขึ้นไม้ไม่มีตำหนิจะมีข้อกำหนดเหมือนกับของเกรดคัดเลือกหรือสูงกว่าและรูปลักษณ์ของไม้ไร้ตำหนิเป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งในเกรดนี้ขนาดต่ำสุดของแผ่นไม้กระดานที่จัดส่งในเกรดจะขึ้นอยู่กับพันธุ์ไม้ พื้นที่ที่พันธุ์ไม้นี้เจริญเติบโตอยู่และการกำหนดของผู้ขาย

เกรด คอมเซล (Comsel) เกรดนี้พัฒนามาจากเกรด คุณภาพชั้นหนึ่งและคัดเลือกของ NHAL ในกรณีที่มีการส่งออกแผ่นไม้ในเกรดนี้ต้องมีไม้ไม่มีตำหนิอย่างน้อยปริมาตรเท่ากับหรือสูงกว่าที่มีในไม้คุณภาพชั้นหนึ่ง (No.1C) เล็กน้อยและเช่นเดียวกับเกรดไพร์ม รูปลักษณ์ของไม้ไร้ตำหนิก็เป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่ง ขนาดต่ำสุดของแผ่นกระดานที่จัดส่งจะขึ้นอยู่กับพันธุ์ไม้ พื้นที่ที่พันธุ์ไม้นี้เจริญเติบโตอยู่ และการกำหนดของผู้ขาย

ควรรับทราบด้วยว่า ไพร์มและคอมเซลไม้ได้เป็นคำนิยามมาตรฐานของ NHLA และไม่ถือว่าทั้งสองเป็นชั้นคุณภาพของ NHLA อย่างเป็นทางการ