เนเชอรัล ลัมเบอร์

วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2554

ไม้ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง


เกี่ยวกับ : เรื่องราวของไม้ที่ใช้ในการทำกีตาร์ หลายๆ คนคงเคยเล่นกีตาร์กันมาไม่มากก็น้อยแต่เคยรู้กันมั้ยว่า กีตาร์ที่คุณเล่นนั้นทำมาจากไม้อะไร และให้โทนเสียงอย่างไร ถ้าคุณสนใจล่ะก็ ตามไปอ่านกันได้เลย

ไม้ที่ใช้ทำกีตาร์นั้นมีตั้งแต่ไม้ถูกๆ อย่างไม้อัด ไปจนถึงไม้หรูหราอลังการงานสร้างอายุเป็น 100 ปีกันเลยทีเดียวเชียว ไม้แต่ละอย่างนั้นก็มีลักษณะเด่นในแบบฉบับของตัวเอง เรียกได้ว่าไม้ที่ใช้ในการทำกีตาร์นั้นมีผลต่อเสียงอย่างมาก จะบอกว่า ไม้ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ก็คงไม่ผิดเรามาเริ่มกันที่ สามองค์ประกอบสำคัญในการเลือกเนื้อไม้สำหรับกีตาร์ตัวโปรดของคุณ อย่าง ที่เรากล่าวไว้แล้ว ว่า ไม้แต่ละชนิดจะมีลักษณะของลายไม้ด้านความสวยงาม และให้สุ้มเสียงที่มีลักษณะแตกต่างกันไป วันนี้ เรามาทำความรู้จักกับไม้แต่ละชนิดกัน เผื่อเป็นทางเลือกในการตัดสินใจให้กับกีตาร์ตัวต่อไปของคุณ


ไม้ชนิดแรกที่เราจะมาแนะนำในวันนี้ คือไม้แอลดเดอร์
ไม้แอลเดอร์ เป็นไม้ที่นิยมใช้ในการผลิตลำตัวกีตาร์ เพราะน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา (ประมาณ 4 ปอนด์ สำหรับกีตาร์ทรง Strat) และให้น้ำเสียงที่เต็ม เนื่องจากเนื้อไม้มีลายเสี้ยนละเอียด ทำให้ง่ายต่อการเคลือบผิวหรือลงสีผิว สีไม้แอลเดอร์ธรรมชาติจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ และจะมีลายวงปีที่ดูเป็นระเบียบสม่ำเสมอ เหมาะกับการทำสี ทั้งแบบสีซันเบิร์ส และสีทึบสีเดียว ไม้ชนิดนี้นิยมปลูกกันมากแถบวอชิงตัน

ด้วยความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และราคาไม่แพง ทำให้ไม้แอลเดอร์เป็นไม้ที่เป็นที่นิยมอย่างมาก นอกจากนี้ คุณลักษณะของเนื้อไม้ ทำให้ได้เสียงที่คงที่ ทั้งโทนเสียง ต่ำ กลาง และสูง และด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ ทำให้ไม้แอลเดอร์เป็นไม้หลักที่ใช้ในการผลิตเป็นลำตัวของ Fender มานานหลายปี

1. ลักษณะของไม้ ไม้แต่ละชนิดนั้น มีเอกลักษณ์เป็นของตัวของมันเองโดยธรรมชาติ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นไม้ตระกูลเดียวกัน แต่ไม้แต่ละชิ้นก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่ดี ไม้แต่ละชนิดนั้นจะแตกต่างกันใน ลายเนื้อไม้, สี, ความเข้ม, น้ำหนัก, ความหนาแน่นของเนื้อไม้ มันไม่สำคัญว่าไม้ชิ้นเดียวนั้นดีที่สุดหรือไม่ดีที่สุด แต่ที่สำคัญก็คือ ความแตกต่างของเสียงและความเป็นเอกลักษณ์เท่านั้น การเลือกไม้กีตาร์นั้น คุณก็แค่เลือกไม้ที่มันเหมาะสมกับรสนิยมของคุณเท่านั้นเอง แต่ถ้าเกิดไม้หลักที่คุณเลือกนั้นมันฟังแล้วขัดใจคุณ แต่ดันมีลายสวยถูกใจแล้วล่ะก็ คำตอบสุดท้ายของคุณอาจจะเป็น การใช้แผ่นไม้บางๆ (Laminate top) แปะด้านท้อปของกีตาร์นั่นเอง นั้นแหละ คุณก็จะได้กีตาร์ในโทนเสียงที่คุณต้องการพร้อมกับลายไม้ที่โดนใจคุณ โดยที่มันจะไม้ไปรบกวนโทนเสียงของเนื้อไม้หลักของกีตาร์ของคุณ
2. เสียงและน้ำหนักเสียง ของไม้แต่ละชนิดนั้น แปรผันไปตามตระกูลของไม้ น้ำหนัก และความหนาแน่น โดยทั่วไป ไม้ที่มีน้ำหนักมากจะให้เสียงค้าง (sustain) ที่ยาวนานกว่า สว่างกว่า และชัดเจนกว่า ซึ่งถือได้ว่าเป็นคุณลักษณะที่ดีของเบสกีตาร์เลยทีเดียว ส่วนไม้ที่มีน้ำหนักเบามากๆ จะให้ซาวนด์ที่ไม่ชัดเจนและขุ่น โดยเฉพาะถ้าจับคู่กับปิ๊คอัพแบบ Humbucker ส่วนไม้น้ำหนักกลางๆ ก็อยู่ตรงกลางระหว่างคุณลักษณะของทั้งสองแบบ และยังเป็นแบบที่นิยมใช้กันมาช้านานแล้วด้วย หรืออาจจะใช้ไม้ที่หนักแต่ข้างในเป็นโพรง ซึ่งบอดี้แบบนี้มันยังคงความแข็งอยู่ แต่ก็มีนำ้หนักที่เบา แล้วให้โทนเสียงที่ อ้วนเต็มเม็ด และมีเสียงที่ค้างยาวใช้ได้เลย
3. การเคลือบผิวกีตาร์คุณ ชอบการลงเคลือบผิวบอดี้กีตาร์แบบไหน? คุณสามารถทำมันเองได้ด้วยนะ เช่นการใช้น้ำมัน Tung หรือน้ำมัน Danish มันเป็นวิธีที่ง่ายดี และทำให้ตัวบอดี้กีตาร์ของคุณดูมืดและเข้มขึ้น เหมือนพวกไม้โคอะ (koa) วอลนัท (walnut) โคริน่า (korina) ในขณะที่การเคลือบสีผิวแบบสว่างๆ นั้นเหมาะกับพวกไม้ Western maple สีขาว การเคลือบผิวแบบใสๆ นั้นจะดูเยี่ยมมาก ถ้าเคลือบลงบนไม้ที่มีลายบนไม้ชัดๆ อย่างเช่นไม้ แอช (ash) แต่ถ้าเป็นการเคลือบสีผิวแบบแวววาวนั้น คุณสามารถฉีดสเปรย์บนไม้ใดก็ได้ แต่ถ้าคุณไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือแบบมืออาชีพ... มันก็ยากเอาเรื่องอยู่

ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก guitarist thailand

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น